วิธีการรักษาอัลตร้าซาวด์เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ดีที่สุดและถูกนำไปใช้ในเทคโนโลยีทางกายภาพบำบัดพลังงานดังกล่าวถูกส่งไปยังเนื้อเยื่อในรูปแบบของคลื่นเสียงโดยใช้ “หัวอัลตร้าซาวด์” หรือทรานสดิวเซอร์ ความถี่ที่เกิดขึ้นนี้มักจะอยู่ระหว่าง 0.8 และ 3 MHz เนื้อเยื่อบางส่วนดูดซับพลังงานอัลตร้าซาวด์ในระดับเดียวกัน ดังนั้นประสิทธิภาพจึงขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อเยื่อที่กำลังรับการรักษา ผลการรักษาที่ดีที่สุดของอัลตร้าซาวด์จะเกิดขึ้นในเนื้อเยื่อที่ดูดซับพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (คอลลาเจน) ที่มีความหนาแน่นสูง เช่น เส้นเอ็น, พังพืด, ถุงหุ้มข้อและเนื้อเยื่อแผลเป็น
แม้ว่าอัลตร้าซาวด์จะมีผลต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ (เช่น กล้ามเนื้อ) แต่ผลของอัลตร้าซาวด์ในกล้ามเนื้อเฉียบพลันจะมีความชัดเจนน้อยกว่าผลกระทบจากการบาดเจ็บเส้นเอ็นเฉียบพลัน ความรู้เกี่ยวกับประเภทของเนื้อเยื่อที่ได้รับผลการรักษามีความสำคัญมากต่อกระบวนการตัดสินใจทางคลินิก ในการศึกษาล่าสุดนี้ ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญที่สามารถแสดงให้เห็นการรักษากล้ามเนื้อเฉียบพลันมาก ในขณะที่พบผลการรักษาที่ดีในการรักษาอาการบาดเจ็บเส้นเอ็น
ผลของการรักษาด้วยอัลตร้าซาวด์
อัลตร้าซาวด์สามารถใช้ได้ทั้งการหวังผลของความร้อนและแบบไม่มีความร้อน ซึ่งอุณหภูมิของเนื้อเยื่อที่เหมาะกับการรักษา คือ 40-45 oC โดยใช้เวลาในการรักษา 5 นาที ผลของความร้อนที่มากเกินไป อาจจะเกิดขึ้นได้ในการใช้ระดับความเข้มข้นที่สูงซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อได้ ผลแบบไม่ใช้ความร้อนของอัลตร้าซาวด์ (รวมถึงการเกิดฟองอากาศและการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด) จะมีความสำคัญกว่าผลของความร้อนในการรักษาอาการบาดเจ็บที่มีความรู้สึกไว การเกิดฟองอากาศเกิดขึ้นเมื่อ ฟองอากาศที่เต็มไปด้วยก๊าซพองตัวสลับกันและบีบอัดในเนื้อเยื่อของเหลวภายใต้ความแตกต่างกันของความดันอากาศ (เกิดจากอัลตร้าซาวด์) สิ่งนี้ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่ในเนื้อเยื่อรอบๆ เนื่องจากการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด จะทำให้โครงสร้างเซลล์และการแลกเปลี่ยนสารมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นการอธิบายว่าอัลตร้าซาวด์ส่งผลที่ดีในการรักษาบาดแผล
ฟองอากาศเล็กๆ มี 2 รูปแบบ:
ฟองอากาศที่เสถียร(ไม่เฉื่อย)
ฟองอากาศที่ไม่เสถียร(เฉื่อย)
ฟองอากาศแบบเสถียร คือ เกิดการขยายและหดสลับตามจังหวะคลายและกดของคลื่นเสียง สันนิษฐานว่าฟองอากาศแบบเสถียรมีผลดีต่อเนื้อเยื่อที่ได้รับคลื่นเสียง
ฟองอากาศที่ไม่แน่นอน ซึ่งเรียกว่า ฟองอากาศแบบไม่เสถียร ฟองอากาศเหล่านี้แตกออกได้ค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มีผลกระทบหลายอย่าง เช่น ความดันและอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ฟองอากาศแบบไม่เสถียรอาจจะส่งผลให้เกิดการเสียหายต่อเนื้อเยื่อ ควรป้องกันการเกิดฟองอากาศแบบไม่เสถียรโดยใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์แบบช่วงกระตุ้นที่สั้น ๆ
ผลทางความร้อนของอัลตร้าวซาวด์ประกอบด้วยการให้ความร้อนแก่เนื้อเยื่อที่มีคอลลาเจนและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการส่งคลื่นเสียงต่อเนื่องร่วมกับความเข้มข้นที่สูง
ผลที่ไม่เกิดความร้อนเกิดขึ้นในระดับพลังงานต่ำและอยู่ในช่วงกระตุ้นที่สั้นและมีการควมคุมตามวัตถุประสงค์การรักษา อัลตร้าซาวด์ที่ไม่ให้ความร้อนมักจะใช้เพื่อเพิ่มความเร็วของการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการอักเสบให้เร่งกระบวนการซ่อมแซม ซ่อมสร้างเซลล์
การรักษาในช่วงระยะการซ่อมแซมของการหายของแผลนั้นจะทำให้การฟื้นฟูการทำงานดีขึ้น
ผลของการรักษาแบบหวังผลของความร้อน
- เพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ
- เพิ่มการไหลเวียนเลือด
- ลดอาการปวด
- กระตุ้นการตอบสนองการอักเสบเพียงเล็กน้อย
- ลดอาการติดของข้อต่อ
- ลดอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ
ผลของการรักษาแบบไม่หวังผลของความร้อน
- การเกิดฟองอากาศขนาดเล็ก
- เกิดการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด
- การทำร่วมกับกระแสไฟฟ้า อาจจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มการไหลเวียนเลือด การซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระดูก
ตัวแปรในการรักษาด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์
ความถี่ (Frequency) แสดงหน่วยเป็น MHz คือ ความถี่ของคลื่นอัลตร้าซาวด์ ความถี่อัลตร้าซาวด์เป็นตัวกำหนดความลึก โดยที่ 1 MHz สามารถลงได้ลึกที่สุด โดยสามารถตั้งค่าที่ 1 MHz หรือ 3 MHz
ช่วงของการปล่อยคลื่น (Duty cycle) แสดงในหน่วย %, เป็นอัตราส่วนของช่วงการปล่อยคลื่นและเวลาในการปลอ่ยคลื่นและจำนวนครั้งในการปล่อยคลื่น สามารถเลือกการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์แบบต่อเนื่องหรือแบบช่วงได้ เมื่อปรับ Duty cycle ที่ 100 % จะเป็นการใช้งานโหมดต่อเนื่อง
พื้นที่ผิวบริเวณที่มีการปล่อยคลื่น (Effective Radiation Area; ERA) แสดงในหน่วย cm2 เป็นพื้นที่หน้าตัดของหัวอัลตร้าซาวด์ (ดูรายละเอียดในคุณสมบัติของเครื่อง) ค่า Effect Radiation Area เป็นค่าที่ถูกกำหนดไว้ตายตัวและเป็นขนาดของหัวอัลตร้าซาวด์
ปริมาณพลังงานเสียงต่อหน่วยเวลา (Ultrasound Power) แสดงในหน่วย W การแสดงความเข้มของคลื่นอัลตร้าซาวด์ ตัวเครื่องสามารถเลือกการแสดงได้ 2 หน่วย คือ W และ W/cm2 ในโหมดปล่อยคลื่นแบบช่วง ตัวเครื่องจะแสดงค่า Power ด้วย ค่าเวลาเฉลี่ยของ Power สามารถคำนวนได้จากการคูณด้วยค่า Duty cycle
ปริมาณพลังงานต่อพื้นที่ของหัวอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound Amplitude) แสดงในหน่วย W/cm2 เป็นผลหารระหว่าง Ultrasound Power และ Effect Radiation Area ตัวเครื่องสามารถเลือกการแสดงได้ 2 หน่วย คือ W และ W/cm2 ในโหมดปล่อยคลื่นแบบช่วงตัวเครื่องจะแสดงค่า Amplitude ด้วย ค่าเวลาเฉลี่ยของ Amplitude สามารถคำนวนได้จากการคูณด้วยค่า Duty cycle
ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม
โปรดไปที่ www.electrotherapy.org สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อุปกรณ์การรักษาด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์
ข้อบ่งใช้และข้อห้ามของการรักษาด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์
ข้อบ่งใช้การใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์
- เครื่องให้การรักษาด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์จะใช้ในการรักษาเพื่อหวังผลให้เกิดความร้อนในเนื้อเยื่อส่วนลึกเพื่อลดอาการปวด, ลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อและลดการยึดติดของข้อต่อ จุดประสงค์การใช้งานของคลื่นอัลตร้าซาวด์สำหรับการรักษาทางการแพทย์ เพื่อจุดประสงค์ในการ chronic และ sub chronic ของ bursitis/capsulitis, epicondylitis, ligament sprains, tendinitis, การซ่อมสร้างของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อฉีกขาด โดยใช้ในการลดปวด
ข้อห้ามในการใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์
- บริเวณที่เป็นข้อห้ามของการรักษาด้วยความร้อนเอง
- บริเวณของร่างกายที่แสดงถึงเนื้อร้าย
- บริเวณเหนือหรือใต้ต่อของบริเวณที่ยังไม่มีการหยุดการเจริญเติบโตของกระดูก
- บริเวณทรวงอกหรือผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยกระตุ้นหัวใจ
- บริเวณที่มีการรักษากระดูกหัก
- ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุดหรือการไหลเวียนเลือดผิดปกติ
- ผู้ป่วยที่ผ่าตัดใส่เหล็กทุกชนิด
- ผู้ป่วยที่มีการรับรู้ความรู้สึกผิดปกติ
- บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์หรือเด็กในครรภ์ที่กำลังมีการเจริญเติบโต
- บริเวณหัวใจ
- บริเวณสมอง
- บริเวณอัณฑะ
- บริเวณดวงตา
- ผู้ป่วยที่ไม่สามารถสื่อสารหรือรับรู้ความรู้สึก
คำแนะนำสำหรับการใช้งาน โปรดศึกษาคำแนะนำสำหรับการใช้งานสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อบ่งใช้และข้อห้ามรวมถึงคำเตือนและคำแนะนำ
ข้อบ่งใช้และข้อห้าม อยู่ในคู่มือการใช้งาน Series 4 EN 1498751-41.pdf.