การรักษาด้วยกระแสไฟฟ้าคือการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับการรักษาทางการแพทย์ การรักษาด้วยไฟฟ้า ประกอบด้วยวิธีการรักษาที่หลากหลาย เช่นกระแสไฟฟ้า ช็อตเวฟ-ไมโครเวฟ และอัลตร้าซาวด์ ในส่วนของ
" การรักษาด้วยกระแสไฟฟ้า " จึงจำกัดหัวข้อกระแสไฟฟ้าที่ใช้เพื่อการรักษาดังนี้
- Interferential Currents
- Biphasic Pulsed Currents (TENS)
- Premodulated currents
- Russian Stimulation
- Micro Currents
- High Voltage
- Diadynamic Currents
- Galvanic Currents
- Faradic Currents
รูปแบบกระแสไฟเหล่านี้ ในอุปกรณ์การรักษาด้วยกระแสไฟฟ้าของ Enraf-Nonius ได้รับการออกแบบเพื่อจัดการความเจ็บปวด ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ และการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน www.electrotherapy.org
เครื่องให้การรักษากระแสไฟฟ้าของ Enraf-Nonius
เครื่องให้การรักษากระแสไฟฟ้าของ Enraf-Nonius
Endomed 482
ครบทุกรูปแบบกระแส, ใช้งานง่าย, รวดเร็วและเป็นทางเลือกสำหรับการรักษา
ด้วยกระแสไฟฟ้าที่เชื่อถือได้
Endomed 484
การรักษาด้วยกระแสไฟฟ้าแบบ 4 ช่อง
Endomed 182 & 182V
อุปกรณ์ระดับมืออาชีพที่ถูกที่สุดสำหรับกระแสอินเตอร์เฟอเรนเชียล (IFC) และกระแส TENS
Vacotron 460
Vacotron 460 เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ Endomed 482 หรือ Sonopuls 492 (รุ่นใหม่)
Endomed 684V และ 682V (1)
การรักษาด้วยกระแสไฟฟ้าแบบ 4 หรือ 2 ช่อง
ข้อบ่งใช้และข้อห้ามในการรักษาด้วยกระแสไฟฟ้า
การจัดการความเจ็บปวด
การจัดการความเจ็บปวดคือการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด
ข้อบ่งใช้การจัดการความเจ็บปวด
- บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง, ยาวนานและรักษายาก การจัดการความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับภาวะหลังจากการบาดเจ็บรุนแรง หรือภาวะหลังจากการผ่าตัด
ข้อห้ามการจัดการความเจ็บปวด
- อุปกรณ์นี้ไม่ควรใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดจนกว่าจะหาสาเหตุหรือมีการวินิจฉัย
- อุปกรณ์นี้ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่ติดเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
- อุปกรณ์นี้ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง
- ควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งอิเล็กโทรดที่ใช้กระแสไฟฟ้า ไปยังบริเวณ Sinus carotid (คอด้านหน้า)
- ควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งอิเล็กโทรดที่ใช้กระแสไฟฟ้าผ่านศีรษะ
- ควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งอิเล็กโทรดที่ใช้กระแสไฟฟ้าผ่านบริเวณหน้าอก (การปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่หัวใจ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ )
คำเตือนการจัดการความเจ็บปวด
- ผลของกระแสไฟฟ้า TENS ไม่ได้เป็นการรักษาเพื่อลดความเจ็บปวดบริเวณจุดต้นกำเนิด
- อุปกรณ์นี้ถูกใช้สำหรับระงับอาการเจ็บปวดแต่ไม่ได้เป็นการรักษาอาการปวด ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมหากอาการปวดนั้นเป็นกลไลการป้องกันตนเองจากการบาดเจ็บ
- ผลในการรักษาระยะยาว ของการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าในกลุ่มโรคเรื้อรังไม่ทราบแน่ชัด
- การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า ยังไม่เป็นที่รองรับในเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยที่มีภาวะการตั้งครรภ์
- กระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า ไม่ควรใช้กับบริเวณที่มีอาการบวม, อาการติดเชื้อ หรือบริเวณที่มีอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น phlebitis, thrombophlebitis, เส้นเลือดขอด เป็นต้น
- ดูเพิ่มเติมบทที่ 3 คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวัง สำหรับคำเตือนทั่วไปและข้อควรระวัง
การกระตุ้นกล้ามเนื้อ
การกระตุ้นกล้ามเนื้อ คือการใช้การกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาความผิดปกติในการทำงานของกล้ามเนื้อ
ข้อบ่งชี้ของการกระตุ้นกล้ามเนื้อ
- การผ่อนคลายของกล้ามเนื้อหดเกร็ง
- การป้องกัน หรือการชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ
- การเพิ่มการไหลเวียนโลหิตเฉพาะที่
- การเรียนรู้ซ้ำ ๆ ของกล้ามเนื้อ
- การกระตุ้นหลังจากการผ่าตัดทันทีของกล้ามเนื้อน่อง เพื่อป้องกันการอุดตันในเส้นเลือด
- การรักษาสภาพ หรือเพิ่มช่วงของการเคลื่อนไหว
- ภาวะการกลืนลำบาก
ข้อห้ามของการกระตุ้นกล้ามเนื้อ
- อุปกรณ์นี้ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่ติดเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
- อุปกรณ์นี้ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง
- ควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งอิเล็กโทรดที่ใช้กระแสไฟฟ้า ไปยังบริเวณ Sinus carotid (คอด้านหน้า)
- ควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งอิเล็กโทรดที่ใช้กระแสไฟฟ้าผ่านศีรษะ
- ควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งอิเล็กโทรดที่ใช้กระแสไฟฟ้าผ่านบริเวณหน้าอก (การปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่หัวใจ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ )
หมายเหตุ
อย่างไรก็ตามการติดขั้วกระตุ้นสำหรับการรักษา Dysphagia (ภาวะกลืนลำบาก) ต้องอยู่ห่างเพียงพอจากบริเวณไซนัสแคโรทีส ซึ่งนักกายภาพบำบัดต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ได้อธิบายไว้ในหนังสือคู่มือบำบัด " Dysphagia (โดย H.C.A. Bogaardt SLP, PhD) "
คำเตือนของการกระตุ้นกล้ามเนื้อ
- ผลข้างเคียงระยะยาวของการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเรื้อรังยังไม่ทราบแน่ชัด
- การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า ยังไม่เป็นที่รองรับในเรื่องความปลอดภัยในผู้ป่วยที่มีภาวะการตั้งครรภ์
- กระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า ไม่ควรใช้กับบริเวณที่มีอาการบวม ,อาการติดเชื้อ หรือบริเวณที่มีอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น phlebitis, thrombophlebitis, เส้นเลือดขอดเป็นต้น